ระบบการตัดต่อ
มี 2 แบบ คือ ระบบ Linear และ Non-Linear
♦ Linear : ตัดต่อโดยใช้เครื่องเล่น (player) และบันทึกวิดีโอเทป (recorder)
: การลำดับภาพต้องทำไปตามลำดับก่อน-หลังของเนื้อหาตั้งแต่ต้นจนจบ
: ถ้าต้องการจะแก้ไขงานในจุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ความยาวของเทป เปลี่ยนไป ต้องลำดับภาพใหม่ตั้งแต่จุดนั้นไปจนถึงจุดสุดท้าย
: เป็นการลำดับภาพโดยใช้เทปเป็นหลัก
♦ Linear : ตัดต่อโดยใช้เครื่องเล่น (player) และบันทึกวิดีโอเทป (recorder)
: การลำดับภาพต้องทำไปตามลำดับก่อน-หลังของเนื้อหาตั้งแต่ต้นจนจบ
: ถ้าต้องการจะแก้ไขงานในจุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ความยาวของเทป เปลี่ยนไป ต้องลำดับภาพใหม่ตั้งแต่จุดนั้นไปจนถึงจุดสุดท้าย
: เป็นการลำดับภาพโดยใช้เทปเป็นหลัก
♦ Non-Linear : ตัดต่อบนเครื่องคอมพิวเตอร์
: ลำดับภาพโดยใช้คอมพิวเตอร์ ภาพวิดีโอที่ถูกถ่ายมาจะต้องทำการแปลงสัญญาณภาพเป็นข้อมูลของคอมพิวเตอร์ก่อน แล้วโปรแกรมตัดต่อจะดึงเอาข้อมูลที่เก็บไว้ในฮาร์ทดิสก์ มาแสดงออกเป็นภาพอีกครั้ง
: การลำดับภาพโดยใช้ฮาร์ทดิสก์เป็นหลัก
: ลำดับภาพโดยใช้คอมพิวเตอร์ ภาพวิดีโอที่ถูกถ่ายมาจะต้องทำการแปลงสัญญาณภาพเป็นข้อมูลของคอมพิวเตอร์ก่อน แล้วโปรแกรมตัดต่อจะดึงเอาข้อมูลที่เก็บไว้ในฮาร์ทดิสก์ มาแสดงออกเป็นภาพอีกครั้ง
: การลำดับภาพโดยใช้ฮาร์ทดิสก์เป็นหลัก
♦ ♦ ข้อดีของระบบ Non-Linear
• ลงทุนต่ำ
• ค้นหาและคัดเลือกภาพได้สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องกรอกลับไป-มาเหมือนเทป
• เลือกทำงานเป็นช่วงได้ตามอิสระ ไม่ต้องทำตามลำดับก่อนหลังตั้งแต่ต้นจนจบ
• ไม่เสียความคมชัดของภาพ
• ลงทุนต่ำ
• ค้นหาและคัดเลือกภาพได้สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องกรอกลับไป-มาเหมือนเทป
• เลือกทำงานเป็นช่วงได้ตามอิสระ ไม่ต้องทำตามลำดับก่อนหลังตั้งแต่ต้นจนจบ
• ไม่เสียความคมชัดของภาพ
♦ ♦ ขั้นตอนการตัดต่อด้วยระบบ Non-Linear
1. เลือกภาพที่ต้องการจะนำมาใช้
2. นำเอาภาพเข้าไปเก็บในฮาร์ทดิสก์ : capture หรือ digitize
3. ตัดต่อ
4. นำงานที่อยู่ในเครื่องตัดต่อลงเทป
1. เลือกภาพที่ต้องการจะนำมาใช้
2. นำเอาภาพเข้าไปเก็บในฮาร์ทดิสก์ : capture หรือ digitize
3. ตัดต่อ
4. นำงานที่อยู่ในเครื่องตัดต่อลงเทป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น